จับวนไป! ทหารพรานยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ดพร้อมยาอีรูปหัวใจหลากสี

 

ทหารพราน 2105 หนองคายสนธิกำลังหลายภาคส่วนตรวจยึดยาบ้า 2 ล้านกว่าเม็ด พร้อมยาอี ปั๊มรูปหัวใจหลากสี มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท คาดเตรียมนำเข้าพื้นที่ตอนใน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (2 มี.ค.) ที่หน้าหอประชุมประจักษ์ศิลปาคม ศูนย์ราชการจังหวัดหนองคาย นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.อ.มงคล หอทอง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดล็อตใหญ่ 6 กระสอบ
ประกอบด้วย ยาบ้า 2,286,000 เม็ด, ยาอี 15,000 เม็ด และยาเสพติดรอการตรวจสอบชนิด 10,407 เม็ด ซึ่งยาอีที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้มีการปั๊มเป็นเม็ดรูปหัวใจหลากสี เช่น สีเขียว สีฟ้า สีเหลือง และสีส้ม มูลค่ายาเสพติดรวมประมาณ 100 ล้านบาท
นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า การตรวจยึดในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 2105 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้สนธิกำลังหน่วยงานข้างเคียงเข้าทำการตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย โดยการลำเลียงข้ามแม่น้ำโขง ช่วงบ้านน้ำเป ต.รัตนาวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ซึ่งในช่วงกลางดึกวันที่ 1 มี.ค. 65 เจ้าหน้าที่พบเรือเพลายาวติดเครื่องยนต์ท้ายแล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าเทียบท่าฝั่งไทย

จากนั้นมีชายฉกรรจ์ 3 คนขนย้ายวัตถุบางอย่างลงจากเรือ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์เห็นเจ้าหน้าที่จึงโยนสิ่งของลงพื้นแล้ววิ่งลงเรือแล่นกลับไป คาดว่ายาบ้าทั้งหมดนี้จะเตรียมนำเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบยาเสพติด 6 กระสอบ

ด้านพันเอก มงคล หอทอง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงในจังหวัดหนองคายได้บูรณาการทำงานร่วมกัน จนส่งผลให้มีการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท และยับยั้งไม่ให้ขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศ พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือประชาชนและผู้มีเบาะแสได้แจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพด้วย

ขอบคุณที่มา ผู้จัดการออนไลน์

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"แถลงข่าวจับกุมยาบ้าเกือบล้านเม็ด" พ.อ.ปฏิวัติ ชื่นศรี รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) ร่วมกับ หัวหน้าส่วนราชการ